Sunday, July 19, 2015

Review: How Starbucks save my life (ชีวิตผมรอดได้ด้วยสตาร์บัคส์)



     ผมได้ยินหนังสือเล่นนี้จากพี่ท่านหนึ่งมานานแล้ว หนังสือเริ่มต้นได้น่าสนใจมาก ไมเคิล (Michael) ทำงานอยู่บริษัททำโฆษณาแห่งหนึ่ง เขาเริ่มต้นในสมัยที่วงการสื่อกำลังรุ่งเรืองเพราะโทรทัศน์ แต่กลับถูกไล่ออกโดยเด็กสาวที่เขาเคยช่วยให้เธอได้ทำงานที่เดียวกับเขา เพราะความที่เขาเงินเดือนสูงเกินไปและผลงานที่เขาทำได้กับคนรุ่นใหม่ไม่ได้แตกต่างกันมาก ชีวิตที่รุ่งโรจน์ลงมาถึงจุดต่ำสุดเมื่อเขามีลูกนอกสมรสและต้องแยกทางกับภารยาพร้อมทั้งยกสมบัติทั้งหมดให้เธอดูแลลูกทั้ง 4 คน

     หนังสือเล่มนี้ให้แง่มุมเรื่องความเคารพ ไมเคิลเกิดและเติบโตในชีวิตของคนชั้นสูงผิวขาว ก่อนจะโดนออกจากบริษัทก็ทำงานอยู่ในตำแหน่งสูงๆ ซึ่งเขาเล่าและรู้ตัวเองว่าหัวโขนของเขาเยอะมาก แต่ Starbucks เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่เขาคว้าไว้ได้ แต่ความเคารพผู้อื่นไม่ว่าคนคนนั้นจะยากดีมีจนอย่างไร มันส่งผลที่น่าประหลาดใจแก่ไมเคิลอย่างมาก ทุกคนไม่ว่าจะเป็นลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์ต่างให้ความเคารพและชื่นชมเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นเลยในบริษัทเดิมที่การชื่นชมจะเป็นภัย

     ความสุขที่ไมเคิลเจอ การทำงานเป็นคนถูพื้นหรือบาริสต้านั้นไม่ใช่งานที่สูงส่งเลย แต่เขากลับรู้สึกมีความสุขมาก วัยรุ่นอย่างพวกเราพยายามบินให้สูงแต่ที่สำคัญก็อย่าลืมถามใจตัวเอง เรามีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่หรือเปล่า

     เคยมีคนบอกกับผมว่าการทำงานหนักตอนที่เรามีลูกต้องดูแลแล้ว ไม่ได้อยู่กับเขาตลอดนั้นไม่ได้ทำให้เขาเสียคนหลอก ขอให้เรามีเงินพร้อมที่จะดูแลพวกเขาในตอนโตดีกว่าไหม ครับผมเชื่อด้วยหัวใจทั้งหมดที่มีว่าเราจะทำให้ดีที่สุดให้กับคนที่เรารัก ในหนังสือเล่มนี้จะให้อีกมุมมองนึงของคนทำงานหนัก จนขนาดที่ว่าก้มหน้าก้มตาทำแต่พอเงยหน้าขึ้นมาลูกๆก็โตหมดแล้ว ลูกแต่ละคนของไมเคิลเติบโตไปอย่างสำเร็จในชีวิต แต่เขาก็รู้ตัวที่ได้พลาดบางสิ่งไปเมื่อตอนที่เขาได้มีเวลาดูแลลูนอกสมรสของเขา มันคงเป็นคำบรรยายที่บอกไม่ถูกและคงมีค่ามากจริงๆ ความทรงจำในตอนที่พวกเขายังเด็กอยู่นั้นมีค่าและไม่อาจหวนคืนมาได้

     สิ่งที่ชอบมากที่สุดจากการอ่านหนังสือเล่มนี้คือการใช้ชีวิตหลังเกษียร อย่างมีค่ากับผู้อื่นและตนเอง ผมมานั่งนึกว่าชีวิตหลัง 60 ของตัวเองไปแล้วถ้าทำตามคนทั่วไปคือพัก ท่องเที่ยวหรือคอยดูความสำเร็จของลูกหลาน เท่านั้นมันคงไม่เพียงพอที่จะเติมเต็มผมให้เต็มได้ ถึงตอนนั้นผมคงจะทำงานต่อไป ไม่ว่ามันจะใหญ่หรือเล็ก มีเกียติมากน้อยแค่ไหน ไม่แน่พออายุ 60 คุณอาจจะเห็นผมทำงานเสิร์ฟกาแฟอยู่ที่ Starbucks ก็ได้นะ :)

No comments:

Post a Comment